Triumph Tiger 1200 2022 พี่เสือใหญ่สายลุย รวมความเป็นที่สุดในทุกด้าน อัดแน่นทุกฟังก์ชั่นที่แบรนด์ผู้ดีมีทั้งหมดไว้ในรถคันเดียว พร้อมตะลุยทุกเส้นทาง ทั้งทางดำและทางเถื่อน ส่วนราคายังอุบไว้
Table of Contents
Triumph Tiger 1200 2022
Triumph ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สัญชาติอังกฤษ เผยโฉมหน้าของรถบิ๊กไบค์สาย Touring Adventure รุ่นเรือธง รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พร้อมจะมาท้าชิงกับเจ้าตลาด BMW R 1250 GS อย่างเป็นทางการ ด้วยโมเดล Triumph Tiger 1200 2022 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นรถจักรยานยนต์สำหรับการผจญภัย ที่มาพร้อมความปราดเปรียวและคล่องตัวที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่าเดิมและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม ด้วยระบบการควบคุมรถและคุณสมบัติที่ถือเป็นแถวหน้าในกลุ่มรถจักรยานยนต์ระดับเดียวกัน พร้อมกับข้อได้เปรียบทั้งหมดด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์สามสูบด้วยเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ของไทรอัมพ์
Triumph Tiger 1200 ใหม่ นับเป็นผลลัพธ์การพัฒนาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทรอัมพ์ ซึ่งแสดงถึงการปรับโฉมครั้งใหญ่ในด้านน้ำหนัก สมรรถนะ และขีดความสามารถ โดยทั้งหมดนี้มุ่งเน้นที่การมอบทุกความเหนือชั้นที่ผู้ขับขี่กำลังมองหาจากรถจักรยานยนต์เพื่อการผจญภัยของพวกเขา
ต่อยอดจากจุดแข็งของรุ่นก่อน ซึ่งรวมถึงการติดตั้งเพลาขับที่ใช้งานได้จริงและความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกลที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งระบบเครื่องยนต์สามสูบที่เหมาะกับการเดินทางไกล กลุ่มผลิตภัณฑ์ไทรอัมพ์รุ่นใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์สามสูบด้วยเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane โครงรถน้ำหนักเบา และเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งหมดนี้มุ่งเน้นไปที่การส่งมอบรถจักรยานยนต์ความจุขนาดใหญ่ที่คล่องตัวและมีความสามารถสูงสุดสำหรับการผจญภัย ด้วยราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้
Triumph Tiger 1200 2022 ใหม่
วยชื่อใหม่ทั้งหมดที่สะท้อนถึงขีดความสามารถใหม่ด้วยนั้น รถจักรยานยนต์ไทเกอร์ 1200 แต่ละรุ่นจึงได้รับการออกแบบและมุ่งเน้นให้เหมาะกับการผจญภัยที่ผู้ขับขี่แต่ละคนต้องการมากขึ้น
ไทเกอร์ จีที รุ่นใหม่ที่เน้นการใช้งานบนท้องถนนและ ไทเกอร์ จีที โปร ที่มีสเปคสูงกว่านั้นมาพร้อมกับ
ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว พร้อมทั้งระบบกันสะเทือนแบบ semi-active แบบใหม่ของ Showa ที่ผ่านการปรับแต่งมาเพื่อมอบที่สุดของประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นบนท้องถนนโดยเฉพาะ
สำหรับ แรลลี่ โปร ใหม่ นับเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมล้อซี่ลวดแบบ tubeless ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว
และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ พร้อมทั้งระบบกันสะเทือนแบบ semi-active รุ่นใหม่ ของ Showa ที่ให้ระยะการเดินทางไกลยิ่งขึ้น ที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อมอบสุดยอดการขับขี่ทุกสภาพถนน ทั้งออฟโรดและบนถนนปกติ
นับเป็นครั้งแรกที่ไทรอัมพ์เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ขนาดความจุถัง 30 ลิตรรุ่นใหม่ถึง 2 รุ่น
ได้แก่ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ และ จีที เอ็กซ์พลอเรอร์ ซึ่งรุ่นนี้จะมาพร้อมล้อแบบหล่อขึ้นรูป ที่มีขนาดความจุถัง 30 ลิตรเช่นกัน ในกลุ่มรถจักรยานยนต์เพื่อการผจญภัย โดยรถจักรยานยนต์ทั้งสองรุ่นยังมีระบบ Triumph Blind Spot Radar ใหม่ เพื่อการท่องโลกอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์ ด้วยสเปคและขีดความสามารถระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งรวมแล้วเปิดตัวพร้อมกันทั้งหมด 5 รุ่น
เครื่องยนต์ Triumph Tiger 1200 2022
เครื่องยนต์สามสูบด้วยเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ใหม่ ออกแบบมาเพื่อส่งมอบข้อดีทั้งหมดที่ทำให้ Triumph Tiger 900 ประสบความสำเร็จในประเภทรถขนาดกลาง โดยได้นำข้อดีของเครื่องยนต์ทั้งสองแบบมาไว้ด้วยกัน ทั้งช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขณะรอบเครื่องต่ำ เหมือนกับเครื่องยนต์สองสูบ ทำให้ขับขี่แบบออฟโรดได้ดีเยี่ยม ผนวกกับประโยชน์ด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์สามสูบในรอบสูง ทำให้ไทเกอร์ขับขี่ได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้นสำหรับการใช้งานบนท้องถนน ซึ่งผู้ขับขี่ใช้เวลาบนท้องถนนเป็นส่วนใหญ่
ในทางเทคนิค เพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ช่วยให้เครื่องยนต์ Tiger 1200 รุ่นใหม่มีองศาการจุดระเบิดอยู่ที่ 180, 270 และ 270 องศา ส่งผลให้เกิดระยะห่างจากการจุดระเบิดเป็นระยะสั้นหนึ่งช่วงและยาวสองช่วงในวงรอบการเผาไหม้ ให้สมรรถนะที่ดีขึ้นและช่วยให้ส่งกำลังได้ดีขึ้นที่รอบต่ำ
เครื่องยนต์ 1160cc ใหม่ ยกระดับสมรรถนะครั้งสำคัญด้วยกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที
ซึ่งเพิ่มขึ้น 9 แรงม้า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นับเป็นรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเพลาที่ทรงพลังที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ส่วนแรงบิดยังสูงกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ด้วยแรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที ซึ่งเพิ่มขึ้น 8 นิวตันเมตร เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อน
นอกเหนือจากกำลังและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นแล้ว เครื่องยนต์ การปรับแต่ง และเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-plane ใหม่ยังช่วยเพิ่มอัตราเร่ง การตอบสนองและคุณลักษณะที่น่าทึ่งมากขึ้น โดยลำดับการจุดระเบิดไม่สม่ำเสมอให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมและช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขณะรอบเครื่องต่ำ ผสานกับพลังของเครื่องยนต์สามสูบที่ทรงพลังและการส่งแรงบิดตลอดช่วงความเร็วรอบ นับเป็นการปรับโฉมที่ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยไทเกอร์ทุกคันมีเพลาขับน้ำหนักเบาแบบใหม่ที่ต้องการการบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในทางปฏิบัติที่ผู้ขับขี่แนวผจญภัยเป็นระยะทางไกลๆ ชื่นชอบ
มื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อน ทุกอย่างนับเป็นของใหม่ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงกระบอกสูบและระยะชัก ข้อเหวี่ยง
ฝาสูบ กระปุกเกียร์ และคลัตช์ ตลอดจนเพลาขับและเฟืองบีเวลแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งโดยรวมแล้ว ส่วนประกอบทุกชิ้นได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาลงอย่างเห็นได้ชัดและกะทัดรัดยิ่งขึ้น เนื่องจากเครื่องยนต์ใหม่นี้มีส่วนประกอบที่ชิดกันมากขึ้น ซึ่งช่วยเปลี่ยนประสบการณ์ของการขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีท่อไอเสียแบบมินิมอลน้ำหนักเบาแบบใหม่ และทำให้เครื่องยนต์ให้เสียงนุ่มนวลขึ้นมาก
สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการขับขี่
ไทเกอร์ 1200 ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการขับขี่แนวผจญภัยบนถนนและทาง
ออฟโรด ด้วยน้ำหนักที่ลดลงอย่างมาก โครงรถน้ำหนักเบาแบบใหม่ทั้งหมด สเปคของอุปกรณ์ในระดับแถวหน้าของรถจักรยานยนต์ในระดับเดียวกัน ตลอดจนการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับสรีระของ
ผู้ขับขี่
รถรุ่นใหม่นี้ผ่านกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมทั่วทั้งคัน โดยครอบคลุมทุกองค์ประกอบ ทำให้ได้น้ำหนักเบากว่าไทเกอร์รุ่นก่อนถึง 25 กก. และเบากว่าคู่แข่งที่ใช้เพลาขับที่ใกล้เคียงกันถึง 17 กก. เมื่อเทียบจากสเปคของรถจักรยานยนต์ที่เทียบเคียงกันได้
Triumph Tiger 1200 2022 ในแต่ละรุ่น มาพร้อมกับขนาดล้อที่ออกแบบมาเฉพาะ ซึ่งปรับแต่งให้เหมาะกับการผจญภัยที่ผู้ขับขี่แต่ละคนต้องการ สำหรับรุ่น Rally Pro และ Rally Exploror มีล้อซี่ลวดแบบ tubeless ขนาด 21 นิ้ว และ 18 นิ้ว เพื่อให้สามารถขับขี่ได้บนทุกสภาพถนนได้อย่างน่าทึ่ง
ส่วนรุ่น GT, GT Pro และ GT Exploror มาพร้อมล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปขนาด 19 นิ้ว และ 18 นิ้ว เพื่อให้สามารถขับขี่บนถนนได้คล่องตัวยิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าได้การยึดเกาะและการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม ยาง Metzeler Tourance™ เป็นยางมาตรฐานสำหรับรถไทเกอร์ 1200 จีที ทุกรุ่น ในขณะที่ไทเกอร์ 1200 รุ่นแรลลี่ มาพร้อมยาง Metzeler Karoo Street™ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพถนนอย่างแท้จริง สำหรับการขี่แบบออฟโรดด้วยสมรรถนะที่สูงขึ้นอีกขั้น ยาง Michelin Anakee Wild เป็นอีกตัวเลือกที่แนะนำ
เบรก Brembo Stylema® ซึ่งอยู่ในระดับแนวหน้า มีอยู่ใน ไทเกอร์ 1200 ทุกรุ่น เพื่อสมรรถนะอันทรงพลัง เบรกเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกเพื่อตอบสนองความต้องการในการขี่ทางไกลและขีดความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดขั้นสูงของรุ่นแรลลี่
สมรรถนะการหยุดรถ (stopping power) อันน่าทึ่งจากคาลิปเปอร์ Brembo จะถูกควบคุมโดยระบบ Optimized Cornering ABS ขั้นสูง ซึ่งติดตั้งในรถรุ่นใหม่ทุกรุ่น ซึ่งสนับสนุนโดยระบบ IMU (Inertial Measurement Unit) ซึ่งวัดการเคลื่อนไหวของรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง (อัตราการยก การบิดซ้ายขวา และอัตราการเอียง อัตราเร่งแนวตั้ง อัตราเร่งด้านข้าง อัตราเร่งตามการเคลื่อนที่) เพื่อคำนวณมุมเอนของจักรยานยนต์และให้ระบบ ABS ทำงานในระดับที่เหมาะสมที่สุด ส่วนก้านเบรก Magura HC-1 สามารถปรับได้ และเพิ่มความสะดวกสบาย รวมถึงช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ดีขึ้น
เพื่อช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงสำคัญในแง่น้ำหนักและขีดความสามารถในการควบคุมรถ เฟรมใหม่ของ
ไทเกอร์ซึ่งเบากว่ารถรุ่นก่อนหน้านี้ 5.4 กก. มาพร้อมซับเฟรมหลังและชุดพักเท้าอะลูมิเนียมที่ยึดด้วยสกรู ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่พัฒนาขึ้นจากความคิดเห็นของลูกค้า
น้ำหนักรถที่เบาลงเป็นผลมาจากถังเชื้อเพลิงอะลูมิเนียมใหม่และสวิงอาร์มแบบ Tri-link ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งแข็งแรงและเบากว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 1.5 กก. และรวมเพลาขับและเฟืองบีเวล ที่เล็กกว่าและเบากว่า
การเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขี่ด้วยความเร็วต่ำและในระหว่างการเคลื่อนที่ไม่ได้ขับ เช่นเดียวกับความสะดวกสบายและการควบคุมรถที่ดีขึ้น รถจักรยานยนต์ไทเกอร์ 1200 ใหม่ทุกรุ่นมาพร้อมเบาะนั่งและตัวถังแบบใหม่ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเบาะนั่งด้านหน้าแคบลงรับกับตำแหน่งที่บรรจบกับถังน้ำมัน เพื่อให้ผู้ขับขี่แต่ละคนสามารถหาจุดที่เหมาะ (Comfort Zone) ของตัวเองได้มากขึ้น ทุกรุ่นจึงมีกลไกที่นั่งแบบสองตำแหน่งที่ปรับได้ได้ง่ายในตัว ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนความสูงของเบาะได้ 20 มม. เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ต้องการ
สำหรับรุ่น GT, GT Pro และ GT Exploror มีการตั้งค่าความสูงของเบาะนั่งสองระดับ คือ 850 มม. และ 870 มม. ในขณะที่รุ่น แรลลี่ โปร และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ จะตั้งค่าความสูงที่ 875 มม. และ 895 มม. โดยลูกค้าสามารถลดตำแหน่งเบาะนั่งได้อีก 20 มม. ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบ low seat
อีกขั้นของความสะดวกสบายอยู่ที่กระจกบังลมแบบใหม่ที่ปรับได้ง่าย พร้อมกลไกที่สามารถปรับได้ด้วยมือเดียวขณะขับขี่ และแอโรดิฟฟิวเซอร์ใหม่นี้ทำให้สามารถปรับระดับการป้องกันซึ่งสามารถช่วยลดแรงลมปะทะในขณะขับขี่
ตำแหน่งของแฮนด์บาร์ได้รับการปรับให้เหมาะกับแต่ละรุ่นในไทเกอร์ 1200 ช่วยให้รถจักรยานยนต์มีความคล่องตัวมากขึ้น และรับประกันความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ โดยมีขนาดกว้างกว่ารุ่นก่อน 20 มม. เพื่อการควบคุมรถแบบออฟโรดที่ดียิ่งขึ้น สำหรับ จีที เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ แฮนด์บาร์นั้นสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ถึง 16 มม. ในกลุ่มรถรุ่นเดียวกัน เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่บังคับรถได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตำแหน่งที่พักเท้าได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ความสะดวกสบายและการควบคุมของผู้ขับขี่ที่ลงตัวที่สุดสำหรับแต่ละรุ่น
ทุกรุ่นในตระกูลไทเกอร์ 1200 มีระดับการปกป้องที่ครอบคลุมเพื่อความปลอดภัยและการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างเช่น แฮนด์การ์ด ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น แผ่นกันกระแทกใต้เครื่องยนต์อะลูมิเนียมเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น จีที โปร และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ ในขณะที่แผ่นบังอ่างน้ำมันอะลูมิเนียม ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น แรลลี่ โปร และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ ทั้งนี้ รุ่น จีที เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่ ทั้งสองรุ่นมีระบบป้องกันเพิ่มเติมด้วยการ์ดกันเครื่องยนต์ ในขณะที่ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ มาพร้อมกับการ์ดถังน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับรุ่นอื่นๆ นอกเหนือจากสองรุ่นนี้ก็สามารถติดตั้งรายการเหล่านี้เป็นอุปกรณ์เสริมได้
เทคโนโลยี Triumph Tiger 1200 2022
รถเจนเนอเรชั่นใหม่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเทคโนโลยีของไทเกอร์ ด้วยการเปิดตัวคุณสมบัติขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการขับขี่และความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการควบคุมรถ
โดยรุ่น จีที เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ มาพร้อมเทคโนโลยีเรดาร์จุดอับสายตา (Triumph Blind Spot Radar) แบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ Continental มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่
โดดเด่นสองประการ ได้แก่ ระบบ Blind Spot Assist ที่ใช้เรดาร์หันหน้าไปทางด้านหลังเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่ทราบเมื่อมีรถอีกคันอยู่ในจุดที่มองไม่เห็น และระบบช่วยเหลือขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist) ซึ่งจะแจ้งเตือนได้แม่นยำยิ่งขึ้นหากผู้ขับขี่กำลังจะเปลี่ยนเลนและมีรถกำลังเข้ามาใกล้
ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง (Cornering Traction Control) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเป็นคุณสมบัติมาตรฐานในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ทั้งหมด ซึ่งมีระบบ IMU ขั้นสูงของรถจักรยานยนต์ในกลุ่มนี้ เพื่อช่วยให้การตอบสนองต่อการควบคุมการยึดเกาะถนนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับหลากหลายสภาพการขับขี่
หน้าจาก TFT ขนาด 7 นิ้ว
ข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่ผู้ขับขี่ต้องการจะแสดงผ่านแผงหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว แบบใหม่ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีแถวหน้าเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน พร้อมจอแสดงผลที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมลายกราฟิกใหม่ นอกจากนี้ ระบบเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ยังได้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ซึ่งสามารถเข้าถึงระบบนำทางแบบ turn-by-turn และการควบคุมกล้อง GoPro รวมถึงสามารถใช้งานโทรศัพท์และเล่นเพลงได้
โหมดการขับขี่มีให้เลือกมากถึง 6 โหมด ซึ่งปรับการตอบสนองของมุมลิ้นปีกผีเสื้อ ระบบ ABS ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน และการตั้งค่าระบบกันสะเทือน เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น โหมดการขับขี่แบบออฟโรดจะมีเฉพาะในรุ่น แรลลี่ โปร และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ เท่านั้น
ซึ่งเป็นระบบขับขี่ออฟโรดที่ท้าทายสุดขั้วที่สุดของไทรอัมพ์ สำหรับการผจญภัยแบบออฟโรดของผู้ขับขี่ที่มีความชำนาญสูง โดยระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนจะปิดการทำงาน พร้อมมุมลิ้นปีกผีเสื้อแบบออฟโรด ส่วนโหมด Rain ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีการแทรกแซงการควบคุมระบบมากที่สุดและจำกัดกำลังไว้สูงสุดที่ 100 แรงม้า เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้นเมื่อตกอยู่ในสภาวะอันตราย
ระบบไฟ LED daytime
มอบทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ด้วยระบบไฟ LED Daytime ที่ติดตั้งในไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยเสริมทัศนวิสัยและการส่องสว่างเพิ่มเติมอย่าง ไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights) แบบใหม่ ซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ยกเว้น ไทเกอร์ 1200 จีที
ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ยกเว้น
ไทเกอร์ 1200 จีที ที่สามารถติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริม โดยระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้คลัตช์ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นเช่นกัน ยกเว้น ไทเกอร์ 1200 จีที โดยอุปกรณ์นี้จะช่วยป้องกันไม่ให้รถจักรยานยนต์ถอยหลังขณะออกตัวบนทางลาดชัน โดยเบรกจะทำงานหลังจนกว่าระบบจะรับรู้ได้ว่าผู้ขับขี่เริ่มออกตัว
ขับขี่ทางไกลในทุกสภาพอากาศ
เพื่อความสบายที่มากขึ้นเมื่อขับขี่ทางไกลในทุกสภาพอากาศ รถจักรยานยนต์ทุกรุ่น ยกเว้น ไทเกอร์ 1200 จีที มาพร้อมปลอกแฮนด์แบบปรับความร้อนได้ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงรุ่น จีที เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่
เอ็กซ์พลอเรอร์ ที่มาพร้อมเบาะนั่งปรับอุณหภูมิสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมี Tyre Pressure Monitoring System หรือระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ที่ช่วยตรวจสอบแรงดันลมยางเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่ สำหรับรุ่นอื่นๆ ทั้งหมด เบาะนั่งปรับอุณหภูมิในตัวและระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) สามารถติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมได้
นอกจากเทคโนโลยีที่ครอบคลุมและครบครันแล้ว รถจักรยานยนต์ไทเกอร์รุ่นใหม่ทั้งหมดยังมาพร้อมกับคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ ซึ่งรวมถึงสวิตช์คิวบ์ที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ง่ายด้วยระบบการควบคุมแบบจอยสติ๊ก 5 ทาง รวมถึงสวิตช์เรืองแสงและที่เก็บสัมภาระใต้ที่นั่งพร้อมช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปรับได้และขาตั้งกลางที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ยกเว้นไทเกอร์ จีที
สไตล์ใหม่ที่โดดเด่นของไทเกอร์
นอกจากเรื่องการออกแบบที่มีสไตล์ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของไทเกอร์เช่นเดียวกับเรื่องการควบคุมรถและสมรรถนะแล้ว รถจักรยานยนต์ในตระกูลไทเกอร์ 1200 ใหม่ ยังมาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่น ท่านั่งที่ตั้งตรงมากขึ้น ให้ลักษณะท่าทางที่ดูสง่า เสริมความโดดเด่นด้วยตัวถังแบบมินิมอลที่ออกแบบใหม่ เส้นสายร่วมสมัยที่สะอาดตา และส่วนหน้าที่ดูปราดเปรียวกว่าเดิม
โดยแต่ละรุ่นได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะกดสายตามากขึ้น รถจักรยานยนต์ในตระกูลจีที จะมีสไตล์ที่มุ่งเน้นไปทางรถที่ขับขี่บนท้องถนน ในขณะที่ตระกูลแรลลี่ จะมีลักษณะ ท่าทางและการขับขี่แบบออฟโรดที่มากขึ้น ด้วยล้อหน้าขนาด 21 นิ้วแบบใหม่
นอกจากนี้ รถรุ่นใหม่ยังมีช่วงกลางตัวรถที่เพรียวบางกว่าเดิมและมีดีไซน์ที่กะทัดรัดยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกที่กระชับมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้วางเท้าขึ้นบนพื้นได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยให้เคลื่อนไหวไปมาได้ง่ายขึ้นขณะขับขี่อีกด้วย
สรุปออปชั่น Triumph Tiger 1200 2022
Triumph Tiger 1200 GT 2022 พัฒนาและปรับแต่งมาเพื่อการขับขี่แบบผจญภัยบนท้องถนนโดยเฉพาะ ด้วยล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
Triumph Tiger 1200 GT ความจุถังน้ำมัน 20 ลิตร มีโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ Rain, Road และ Sport
Triumph Tiger 1200 Rally ซึ่งพัฒนาและปรับแต่งมาให้เหมาะกับการผจญภัยในทุกสภาพถนน ด้วยล้อซี่ลวดแบบ tubeless ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
สเปค Triumph Tiger 1200 2022
– น้ำหนักเบาลงอย่างเห็นได้ชัด
- น้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้ามากกว่า 25 กก.
- น้ำหนักเบากว่ารถของคู่แข่งรุ่นที่ใกล้เคียงกันที่ใช้ระบบเพลาขับ มากถึง 17 กก. (อ้างอิงจากสเปคของมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เทียบเคียงได้)
– ขนาดล้อใหม่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการขับขี่
- ล้อซี่ลวดแบบ tubeless ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด (สำหรับรุ่นแรลลี่ โปร และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์)
- ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ล้อหน้าขนาด 19 นิ้วและ ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ให้ขีดความสามารถในการขับขี่บนท้องถนน (สำหรับรุ่นจีที, จีที โปร และ จีที เอ็กซ์พลอเรอร์)
– ความจุถังน้ำมันแบบใหม่
- ถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร (สำหรับรุ่นจีที, จีที โปร และ แรลลี่ โปร)
- ถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร (สำหรับรุ่นจีที เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์)
– โครงรถน้ำหนักเบาโฉมใหม่และสเปคของอุปกรณ์ที่เหนือชั้นกว่า
- เฟรมน้ำหนักเบาแบบใหม่ พร้อมซับเฟรมหลังและชุดพักเท้าอะลูมิเนียมที่ยึดด้วยสกรู
- สวิงอาร์มแบบ ‘tri-link’ แบบใหม่ที่เบาขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
- เบรก Brembo Stylema® ระบบเบรก ABS ขณะเข้าโค้ง พร้อมระบบ IMU
- ระบบกันสะเทือนแบบ semi-active ที่ล้ำสมัยของ Showa เพื่อสมรรถนะสูงสุดของการขับขี่ ทั้งการขับขี่บนถนนและการขับขี่แบบออฟโรด
ดีไซน์ใหม่ ทันสมัยกว่าเดิม
– ดีไซน์โดยรวมที่ดูเพรียวบางและกะทัดรัดขึ้น
– ใส่ใจต่อผู้ขับขี่ด้วยการออกแบบใหม่ตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม
– ความสูงของเบาะนั่งที่ปรับได้ ซึ่งสามารถปรับให้ต่ำลงได้อีกด้วยอุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบต่ำ
จุดเด่นของเครื่องยนต์สามสูบด้วยเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-plane ใหม่
– เครื่องยนต์สามสูบ ขนาด 1160ซีซี ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับคุณลักษณะของเครื่องยนต์
– กำลังมากขึ้น สูงสุด 150 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิดมากขึ้นถึง 130 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที
ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนถึง 9 แรงม้า และมากกว่ารถของคู่แข่งรุ่นที่ใกล้เคียงกันที่ใช้ระบบเพลาขับถึง 14 แรงม้า
– เพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ที่มาพร้อมการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ตามลำดับของลูกสูบที่ไม่เท่ากัน ควบคุมรถได้ง่ายขณะรอบเครื่องต่ำ และการตอบสนองที่ดีขึ้น
- การตอบสนอง ตั้งแต่รอบกลางถึงรอบสูง เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจยิ่งขึ้น
- อัตราเร่งดีขึ้น
– เสียงท่อไอเสียมีลักษณะเฉพาะและโดดเด่นยิ่งขึ้น
– เพลาขับแบบใหม่ที่มีน้ำหนักเบาและการบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก
เทคโนโลยีครบวงจรที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด
- เทคโนโลยีเรดาร์จุดอับสายตา (Triumph Blind Spot Radar System) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยพัฒนาร่วมกับ Continental (เฉพาะรุ่นจีที เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ เท่านั้น)
- ระบบกันสะเทือนแบบ semi-active ของ Showa ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างคล่องตัว
- แผงหน้าปัด TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด พร้อมระบบเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
- ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง ด้วยระบบ IMU
- โหมดการขับขี่สูงสุดถึง 6 โหมด
- ระบบไร้กุญแจที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งการสตาร์ทรถ ล็อคพวงมาลัย และเปิดฝาถังน้ำมัน
- ไฟ LED แบบใหม่พร้อมไฟ DRL และไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights) (ไม่มีในรุ่น จีที)
- ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist) (ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ยกเว้น จีที)
- ปลอกแฮนด์และเบาะนั่งแบบปรับอุณหภูมิ (ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น จีที เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ เท่านั้น)
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System) (ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น จีที
เอ็กซ์พลอเรอร์ และ แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ เท่านั้น) - ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (ไม่มีในรุ่นจีที)
สไตล์ และท่วงท่า ที่โดดเด่น
- ท่าทางและการทรงตัวที่เน้นการผจญภัยที่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยตัวถังแบบใหม่ ดีไซน์หม้อน้ำคู่แบบใหม่ และท่อเก็บเสียงแบบมินิมอล
- ออกแบบใหม่ตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อมอบความสบายให้ผู้ขับขี่ พร้อมตำแหน่งของแฮนด์บาร์และตำแหน่งที่พักเท้าที่ปรับแต่งมาอย่างลงตัว
- ตัวถังแบบใหม่ทั้งหมด
- รายละเอียดและการตกแต่งระดับพรีเมียม
- โทนสีและกราฟิกแบบใหม่สำหรับแต่รุ่น
อุปกรณ์เสริมสำหรับไทเกอร์ 1200 (Tiger 1200) โดยเฉพาะ
- อุปกรณ์เสริมแท้จากไทรอัมพ์มีมากกว่า 50 รายการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ความสะดวกสบาย สไตล์ เทคโนโลยี และการป้องกันความปลอดภัยที่มากขึ้น
- ระบบจัดเก็บสัมภาระเต็มรูปแบบ – กระเป๋าสัมภาระแบบแข็งทั้งหมดมาจากการพัฒนาร่วมกับ Givi
- กล่องเก็บสัมภาระ Trekker รุ่นใหม่ – กระเป๋าเดินทางแบบหล่อ ช่องเปิดด้านข้าง/มุม
- กล่องเก็บหมวกนิรภัยคู่ Trekker ขนาด 52 ลิตร รุ่นใหม่ พร้อมพนักพิงผู้โดยสารบุนวม
- กล่องเก็บสัมภาระอะลูมิเนียม Expedition รุ่นใหม่ – กระเป๋าอัลลอย มีช่องเปิดจากด้านบน
- กล่องเก็บสัมภาระอะลูมิเนียมติดท้ายรถ Expedition ขนาด 42 ลิตร รุ่นใหม่ พร้อมพนักพิงผู้โดยสารแบบสองท่อน
- กลไกลปกป้องที่ครบครัน
- การ์ดเครื่องยนต์และการ์ดถังน้ำมันทำจากสแตนเลสที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี
- ตัวเลือกเบาะนั่งแบบปรับอุณหภูมิได้
- ตัวเลือกในส่วนของเบาะความสูงมาตรฐานและเบาะต่ำสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- Triumph Sena Bluetooth ใหม่
- ความร่วมมือครั้งใหม่กับแบรนด์อุปกรณ์สื่อสารชั้นนำสำหรับรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะ
ชุดหูฟัง Triumph Sena ที่มาพร้อมระบบเสียง Harman Kardon ใหม่
ราคา บริการ และการจัดจำหน่าย
- การรับประกันคุณภาพ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมสมัครโปรแกรมขยายความคุ้มครองได้เพิ่มขึ้น
- รอบการเช็คระยะที่สูงถึง 16,000 กิโลเมตรหรือ 12 เดือน
- ราคาที่คุ้มค่า
อุปกรณ์เสริมเฉพาะรุ่น
ไทเกอร์ 1200 ใหม่ มีตัวเลือกอุปกรณ์เสริมเฉพาะรุ่นให้เลือกมากมาย เพื่อยกระดับประสบการณ์ผจญภัยของผู้ขับขี่ โดยมีอุปกรณ์เสริมแท้ของไทรอัมพ์ให้เลือกมากกว่า 50 รายการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ความสะดวกสบาย สไตล์ และการปกป้องของรถจักรยานยนต์
ตัวเลือกอุปกรณ์เสริม ได้แก่ :
ตัวเลือกกล่องเก็บสัมภาระ 2 แบบ ได้แก่ กล่องสัมภาระหล่อขึ้นรูปแบบใหม่ Trekker รวมถึงกล่องเก็บหมวกนิรภัยคู่ติดท้ายรถขนาด 52 ลิตร พร้อมพนักพิงผู้โดยสาร และกล่องสัมภาระอะลูมิเนียม Expedition แบบเปิดจากด้านบนแบบใหม่ พร้อมท็อปบ็อกซ์และพนักพิงขนาด 42 ลิตรที่เข้าชุดกัน โดยมีให้เลือกทั้งแบบอะลูมิเนียมปัดเงาหรือสีดำด้าน ซึ่งไทรอัมพ์พัฒนาร่วมกับ Givi
- อุปกรณ์ป้องกันที่ครอบคลุม ทั้งการ์ดเครื่องยนต์ การ์ดถังน้ำมัน และแผ่นบังอ่างน้ำมันอะลูมิเนียม
- เบาะนั่งปรับอุณหภูมิในตัว ทั้งในส่วนของคนขับและคนซ้อนท้าย พร้อมเบาะแบบปรับระดับความสูงต่ำได้
- บังลมหน้าแบบปรับได้
- ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist)
- ไฟตัดหมอก LED
- ไฟเลี้ยว LED แบบวิ่ง
- ขาตั้งกลาง
- ชุดหูฟังบลูทูธ Triumph Sena Bluetooth ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือเป็นพันธมิตรครั้งใหม่
ซึ่งสามารถเชื่อมต่อระบบ My Triumph Connectivity และมาพร้อมกับระบบเสียงของ Sena ที่ปรับปรุงใหม่ล่าสุดโดย Harman Kardon
ขอบคุณข้อมูลและภาพ : https://www.autospinn.com/
เรียบเรียงโดย : https://shorturl.asia/K7Tqk
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบิ๊กไบค์ได้ที่ : Tzarbikeshop – อะไหล่บิ๊กไบค์