ระบบกันสะเทือนหรือโช๊คอัพ ของรถมอเตอร์ไซค์ ทั้ง 6 แบบ แตกต่างกันอย่างไร

ระบบกันสะเทือนหรือโช๊คอัพ วันนี้เอาใจชาวสองล้อกันหน่อยโดยวันนี้ได้นำเอาเกร็ดความรู้ของการเลือกโช๊คอัพ ที่จะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆคนที่กำลังมองหาโช๊คอัพดีๆ ซักหนึ่งตัวเพื่อมาใช้งานต้องบอกก่อนเลยว่า “โช๊คอัพ” มาจากคำว่า Shock Absorber (ช็อค – อัพซอร์เบอร์) และมาทำความข้าใจกันก่อนครับว่าโช๊คอัพไม่ได้เป็นตัวรองรับน้ำหนักนะครับเพราะหลายคนเข้าใจกันเป็นเป็นเช่นนั้น แต่!!! จริงๆ แล้วส่วนที่รองรับน้ำหนักนั่นก็คือ สปริง ดังนั่นการทำงานของมันก็คือ การทำงานควบคู่ไปกับกระบอกโช๊คอัพที่มีสปริงและน้ำมันอยู่ด้านใน และที่ต้องมีน้ำมันก็เพื่อเป็นตัวหน่วงไม่ให้สปริงมีการเคลื่อนที่เร็มมากจนเกินไป

ทีนี้ก็รู้จักโช๊คอัพกันไปพอสมควรแล้วมาดูวิธีการเลือกกันต่อเลย สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยควรดูว่าแกนโช๊คอัพที่เรากำลังจะซื้อนี้ได้เคลือบผิว ฮาร์ดโครม มาหรือไม่ เพราะแกนโช้คอัพเป็นส่วนที่มีการเสียดสีมากที่สุดไม่สามารถนับได้เลยว่ามีการเสียดสี ขึ้นลง จำนวนกี่ครั้งเพราะรถจักรยานยนต์ของเราต้องเคลื่อนอยู่ตลอดเวลาในการขับขี่ ซึ่งถ้าเราดูด้วยสายตาตัวเองสามารถสังเกตุได้ว่าโช๊คอัพตัวนี้ถ้ามีการเคลือบผิว ฮาร์ดโครม และผ่านการเจียละเอียดในระดับ 0.04 ไมครอน ผิวของแกนโช๊คจะมีความเงาและจะไม่มีรอยขีดข่วนเล็กๆ บนผิวของแกนโช๊คอัพ

ในส่วนต่อมาเป็นส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งเพราะอาจจะรั่ว ซึม ได้ง่ายมากถ้าไม่ใช้วัสดุในก็ผลิตที่มีคุณภาพสูง นั่นก็คือซีลน้ำมัน เพราะถ้าเกิดซีลน้ำมันรั่ว การหน่วงของโช๊คอัพก็จะลดลง ประสิทธิภาพทุกอย่างของโช๊คอัพตัวนั้นจะลดลงไปทันที ดังนั้นควรดูซีลน้ำมันโช๊คอัพให้ดี ว่ามีการรั่ว ซึม ออกมาหรือไม่  

และน้ำมันไฮดรอลิคที่อยู่ภายในกระบอกโช๊คอัพ ควรจะใช้น้ำมันที่มีสารลดแรงเสียดสีเพราะน้ำมันไฮดรอลิคที่อยู่ภายในก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย เพราะเป็นส่วนช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างแกนโช๊คกับซีลน้ำมันและเมื่อโช๊คอัพผ่านการทำงานมาหนักๆ น้ำมันที่อยู่ภายในกระบอกโช๊คจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ความหนืดของน้ำมันที่อยู่ภายในจะต้องไม่เปลี่ยนไปตามอุณหภูมิและที่ขาดไม่ได้ของน้ำมันไฮดรอลิคที่อยู่ภายในคือ ต้องมีสารป้องกันการรวมตัวระหว่างน้ำมันกับอ๊อกซิเจนซึ่งเมื่อทั้งสองตัวนี้ รวมตัวกันแล้วจะทำให้เกิดการกร่อนของผิวโลหะ และจะทำให้โลหะที่ถูกกร่อนไปอุดตันรูลูกสูบและวาล์วต่างๆ ที่อยู่ภายในกระบอกโช๊คอัพได้  

ระบบกันสะเทือนหรือโช๊คอัพ มีกี่แบบ

โช๊คอัพมีกี่แบบ และแต่ละแบบทำงานอย่างไร ? เรามาดูกันเลยครับว่าโช๊คอัพของรถมอเตอร์ไซค์มีหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วมันจะมีลักษณะการทงานกันอย่างไร ซึ่งโช๊คอัพจะแบ่งแยกออกได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน แต่หลักๆ ที่เราสามารถพบเห็นกันได้บ่อยๆ ก็คือ

1. โช๊คอัพแบบ Telescopic (เทเลสโคปิก) 

         โช๊คอัพแบบ Telescopic คือ โช๊คอัพหัวตั้งแบบที่ใช้งานกันโดยทั่วไป เราสามารถพบเห็นกันได้มากมาย เช่น ในรถ BigBike ในสไตล์เนกเก็ตยอดนิยม อย่าง Honda CB650F 

2. โช๊คอัพแบบ Telescopic Upside Down (เทเลสโคปิก อัพไซส์ดาวน์)

        โช๊คอัพแบบ Telescopic Upside Down คือ โช๊คอัพเทเลสโคปิกแบบกลับหัวนั่นเอง ซึ่งโช๊คอัพแบบนี้ จะให้น้ำหนักของช่วงล่างที่เบากว่า และส่งผลให้การควบคุมรถได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ อย่างเช่น Kawasaki Z1000

3. โช๊คอัพแบบ Swing-Arm (สวิงอาร์ม)

          โช๊คอัพในลักษณะนี้จะมีรูปแบบการทำงาน เช่นเดียวกับระบบกันสะเทือนด้านหลังที่เป็นแบบสวิงอาร์มนั่นเอง เช่น ในรถบิ๊กไบค์สุดเท่ห์ Bimota Tesi
ทั้งนี้โช๊คอัพแบบสวิงอาร์มในส่วนของล้อหลังนั้น ส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นจุดหมุนเดียว และมีทั้งโช๊คอัพคู่ และโช๊คอัพเดี่ยว โดยโช๊คอัพเดี่ยว แยกออกมาได้เป็น 2 รูปแบบด้วยกัน ก็คือ

โมโนช็อค คือ ตัวกระบอกโช๊คที่ยึดกับสวิงอาร์มโดยตรง เช่น Yamaha VR

แบบใช้กระเดื่องทดแรง Kawasaki KR กับระบบกันสะเทือนแบบใช้กระเดื่องทดแรง

4. โช๊คอัพแบบ Telelever (เทเลเลเวอร์)

โดยโช๊คอัพในรูปแบบนี้ จะมีแขนยึดและโช๊คอัพที่แยกตัวออกไป แบบในรถ BMW R1100S

5. โช๊คอัพแบบ Four Bar Linkage (โฟร์บาร์ ลิงค์เกจ)

โช๊คอัพแบบนี้ จะเป็นระบบคล้ายๆ กับระบบกันสะเทือนแบบปีกนก 2 ชั้น ที่เราสามารถพบเจอได้ในรถยนต์นั่นเอง เช่น ช่วงล่างด้านหน้าของรถกระบะ หรือรถมอเตอร์ไซค์อย่าง Moto Guzzi ในบางรุ่น

6. โช๊คอัพแบบ Pro Arm (โปรอาร์ม)

โช๊คอัพในลักษณะที่เรียกกันว่า โปรอาร์ม ถือเป็นชื่อเรียกเฉพาะของแต่ละแบรนด์ ซึ่งโดยปกแล้วจะรู้จักกันในชื่อ สวิงอาร์มแขนเดี่ยว เช่นใน Honda NSR 150SP

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับระบบโช๊คที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ ชาวสองล้อกันในวันนี้ คราวนี้เราก็จะได้รู้กันเสียที ว่าระบบกันสะเทือน หรือโช๊คอัพในมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง แต่ละแบบนั้นทำงานกันอย่างไรบ้าง และในครั้งหน้าเราจะนำเกร็ดความรู้ดีๆ เรื่องไหนมาให้เพื่อนๆ ชาวไบค์เกอร์ได้ชมกันอีก สามารถติดตามกันได้ที่ TZABIKESHOP

ขอบคุณข้อมูลและภาพ http://bigbike.boxzaracing.com/knowledge/3044
ขอบคุณข้อมูลและภาพ http://bigbike.boxzaracing.com/
เรียบเรียงโดย : Tzarbikeshop.com
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบิ๊กไบค์ได้ที่ : Tzarbikeshop – อะไหล่บิ๊กไบค์