ยางรถ Bigbike สามารถดูแลรักษาตรวจเช็คเองได้ง่ายๆ ภายใน 5 ขั้นตอน

ยางรถ Bigbike เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่รถบิ๊กไบค์ต้องใส่ใจและคอยตรวจเช็คอยู่เสมอเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความปลอดภัยในการขับขี่อย่าลืมว่าความปลอดภัยเป็นหัวใจที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้เกิดขึ้นในทุกถนน และยังเกี่ยวพันกับชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดเพราะฉะนั้นการใส่ใจดูแลรักษายางรถบิ๊กไบค์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องศึกษาข้อมูลและเลือกใช้งานให้ถูกต้องและเหมาะสม
แต่ถึงแม้ว่าจะเลือกสรรยางรถบิ๊กไบค์ที่ดีขนาดไหนมาใช้งานแต่ยางรถบิ๊กไบค์ก็มีอายุการใช้งานที่จำกัดดังนั้นผู้ขับขี่ต้องหมั่นตรวจเช็คสภาพยางและควรจะเปลี่ยนยางเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ยางรถ Bigbike การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับรถบิ๊กไบค์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องใส่ใจ

ด้วยรุ่นและขนาดของรถที่แตกต่างกันนั้น ทำให้ต้องเลือกใช้ยางที่แตกต่างกันไปด้วย แม้ว่าตอนแรกเราจะใช้ยางรถที่ติดมาจากโรงงานก็จริง (ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับรถรุ่นนั้นที่สุด) แต่เมื่อใช้งานไปสักพัก  อาจจะประมาณ 2 ปี หรือเมื่อถึงระยะทางที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่ามากหรือน้อยด้วย เมื่อถึงระยะที่เหมาะสม ยางจะมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน จึงต้องมีการเปลี่ยนยาง เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการเปลี่ยนยางครั้งใหม่นี้ หากเลือกตามขนาดเดิม รูปแบบเดิม ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากต้องการเปลี่ยนยาง สิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ควรรู้คือ ไม่ควรเปลี่ยนขนาดของวงล้อ และขนาดความกว้างของหน้ายาง เพราะอาจจะส่งผลต่อการใช้งานได้ นอกจากนี้ ยางรถบิ๊กไบค์นั้นยังมีหลากหลายประเภท ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะยางที่ต่างกัน ประสิทธิภาพการเกาะถนนก็แตกต่างกันด้วย หากเป็นยางแบบนิ่มจะมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้ค่อนข้างดี แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับวิ่งบนถนนทุรกันดาร หรือบรรทุกของหนัก แต่ถ้าหากเป็นยางแบบแข็ง จะเหมาะสำหรับท้องที่ที่ถนนไม่สมบูรณ์ ผิวขรุขระ ซึ่งหากเป็นการขับขี่ในเมือง ควรเลือกยางแบบนิ่มจะดีกว่า  เพราะยึดเกาะถนนได้ดีกว่า ทำให้การประคองรถเป็นไปได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการเข้าโค้งต่างๆด้วย

ยางรถ Bigbike ขับขี่อย่างไร ให้ยางไม่เสื่อมสภาพไว

การขับขี่รถส่งผลโดยตรงต่อความเร็วในการเสื่อมของยาง ยิ่งการขับขี่รถด้วยความเร็ว ยิ่งทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ แต่หากยิ่งเป็นการใช้ความเร็วบนพื้นถนนที่ค่อนข้างร้อน ยิ่งเพิ่มการเสื่อมสภาพของยางไปอีกหลายเท่านัก
การเบรกกะทันหันบ่อยๆก็ส่งผลต่อการเสื่อมของยางโดยตรง การขับขี่รถบิ๊กไบค์ควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าอย่างเหมาะสม เพื่อจะได้ไม่ต้องเบรกกะทันหันบ่อยๆ ซึ่งจะช่วยถนอมยางรถให้คงสภาพที่สามารถใช้งานได้ดีได้นานยิ่งขึ้น น้ำหนักขณะขับขี่ก็ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของยางด้วย ไม่ควรบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้บนรถ เพราะทำให้เกิดแรงกดของน้ำหนักมากขึ้น ส่งผลต่อยางของรถ และที่สำคัญคือห้ามบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่ระบุไว้บนยาง (ยางทุกเส้นจะมีระบุไว้ว่าสามารถรับน้ำหนักได้เท่าไหร่) เพราะจะทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ อาจจะทำให้รถไม่สามารถทรงตัวได้ดีเวลาขับขี่ และทำให้ยางเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการขับขี่รถบิ๊กไบค์บนถนนที่สภาพไม่สมบูรณ์ เช่นเต็มไปด้วยกรวดหิน หรือเป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วหรือเกิดเสียหายได้

ยางรถ Bigbike แนะนำการดูแลรักษา

การดูแลรักษายางจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความปลอดภัย โดยภายนอกนั้น ผู้ขับขี่ควรจะตรวจสอบยางโดยรอบว่ามีสิ่งแปลกปลอม อย่างเช่น ตะปู หรือของมีคม เศษแก้ว ใบมีดเล็กๆที่แตกหักคาอยู่หรือไม่ เพราะหากขับไปเรื่อยๆ แรงกดทับอาจจะทำให้เกิดบาดแผลต่อยางด้านในจนไม่สามารถขับขี่ได้ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจะต้องเปลี่ยนยางทั้งเส้น  นอกจากนี้ควรตรวจสอบรอยขีดข่วนหรือบาดแผลที่อาจจะเกิดจากการเบียดฟุตบาทหรือแรงกระแทกด้วย หากบาดแผลมีความลึกควรจะเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดความเสี่ยงที่ยางจะระเบิดได้ ไม่จอดรถในที่อากาศร้อนจัดโดยไม่จำเป็น เพราะจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว
เช็คลมยางก่อนออกเดินทาง และเช็คอย่างสม่ำเสมอ ลมยางเป็นเรื่องสำคัญมากในการขับขี่รถบิกไบค์ เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ รถบิ๊กไบค์ที่ลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้เกิดการเสียดสีของหน้ายางมาก ดอกยางจะเสื่อมเร็ว พังไว หากลมยางอ่อนและขับรถบนถนนร้อนจัด ยิ่งทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว เพราะฉะนั้นจึงควรเติมลมยางให้เหมาะสมอยู่เสมอ ซึ่งจะเติมเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของยาง โดยจะมีระบุอยู่ในคู่มือ หรือหากไม่ต้องการเติมลมยางบ่อยๆ สามารถเติมลมไนโตรเจนได้ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย เพียงแต่ค่าใช้จ่ายในการเติมอาจจะแพงกว่าการเติมลมปกติเล็กน้อย
ตรวจดอกยางอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นสังเกตยามขับขี่ว่ารถลื่นหรือไม่ และยังยึดเกาะถนนดีอยู่หรือเปล่า เพราะหากยางเสื่อมสภาพ เมื่อขับขี่แล้วเกิดอาการลื่นไม่เกาะถนนแล้ว ควรจะเปลี่ยนยางเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหากดอกยางไม่ดีหรือเสื่อมสภาพ จะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

เติมลมยางอ่อนหรือลมยางแข็งแตกต่างกันอย่างไร

การเติมยางนั้น หากจะพูดแบบทั่วไป ก็คงจะต้องบอกว่าต้องเติมให้เหมาะสม แต่ความเหมาะสมนั้นก็มีหลายสถานการณ์ เพราะการขับขี่รถบิ๊กไบค์ บางครั้งเจ้าของรถก็ขับขี่คนเดียว และบางครั้งก็อาจจะมีผู้ซ้อนท้าย มีสัมภาระอีกมากมายซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล นอกจากจำนวนและน้ำหนักตัวของผู้ขับขี่จะแตกต่างกันแล้ว ท้องถนนก็แตกต่างกันด้วย บางคนขับในเมืองผิวเรียบ ขับง่าย แต่บางคนอาจจะนิยมลุยทริปต่างจังหวัด  การเติมลมยางนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามการใช้งาน  ส่วนข้อดีและข้อเสียของการเติมลมยางอ่อนและลมยางแข็งก็คือ
ลมยางอ่อน – ทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนมากกว่า จึงยึดเกาะถนนได้มากกว่า ควบคุมรถได้ง่ายกว่า แต่ก็ต้องใช้แรงในการออกตัวมากกว่า สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า  และยางก็จะสึกหรอได้ง่ายกว่าด้วย
ลมยางแข็ง – ควบคุมรถได้ยากกว่า ยึดเกาะถนนน้อยกว่า รับแรงกระแทกได้น้อย หากเกิดการกระแทกจากพื้นถนน แรงกระแทกนั้นจะส่งไปยังข้อมือหรือร่างกายของผู้ขับขี่มากกว่า

แล้วอย่างนี้ควรเติมลมยางเท่าไหร
อ่อนหรือแข็งดี???

ขนาดของยาง ซึ่งตามปกติผู้ขับขี่ทุกท่านจะต้องเคยได้ข้อมูลว่า ต้องเติมลมยางตามขนาดของยางซึ่งรายละเอียดและข้อมูลนั้นจะมีระบุไว้ที่ช่วงล่างของรถบิ๊กไบค์ เป็นค่ามาตรฐานที่ผู้ขับขี่สามารถเติมลมยางตามที่ระบุเอาไว้ (กรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ได้มีการเปลี่ยนขนาดของล้อให้ผิดเพี้ยนไป) ซึ่งจะระบุค่าลมยางที่ต้องเติม ทั้งยางล้อหน้าและยางล้อหลัง ขนาดของยางและรายละเอียดอื่นๆที่จำเป็น ซึ่งผู้ขับขี่สามารถดูข้อมูลเหล่านี้เพื่อตัดสินใจในการเติมลมยางรถบิ๊กไบค์ โดยปกติล้อหน้านั้นค่าลมยางจะอยู่ที่ประมาณ 4-2.5 bar เมื่อขนาดของยางอยู่ที่ประมาณ 120 ม.ม.  และค่ายางล้อหลังที่มีขนาดประมาณ 180 – 200 ม.ม. จะอยู่ที่ประมาณ 6 – 2.9 bar
น้ำหนักตัว ต้องยอมรับว่าบางท่านน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ ก็จะมีแรงกดลงไปที่รถมากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกติ ซึ่งการเติมลมยางอาจจะต้องปรับเปลี่ยนตามน้ำหนักตัว เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่รถบิ๊กไบค์ได้คล่องขึ้น และหากตามปกติผู้ขับขี่มีผู้ซ้อนท้ายประจำ ก็ต้องปรับเปลี่ยนลมยางให้เหมาะสมด้วย
น้ำหนักของรถและของที่ต้องบรรทุก นอกจากน้ำหนักตัวรถแล้วบางท่านนิยมลุยทริปต่างจังหวัด ท้ายรถนั้นเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย ยิ่งเพิ่มแรงกดทับให้มากขึ้น ซึ่งต้องนำมาพิจารณาด้วย

ยางรถบิ๊กไบค์ ควรเติมลมยางแบบไหนดีระหว่างลมยางปกติ และลมยางไนโตรเจน

บางท่านอาจจะเคยได้ข้อมูลมาว่าการเติมลมยางแบบไนโตรเจนนั้นดีกว่า และสามารถอยู่ได้นานกว่า มีความเสถียรมากกว่าทำให้หลายคนเลือกที่จะเติมลมยางไนโตรเจนแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่า อยู่ที่ประมาณ 40 – 50 บาทต่อล้อ เพราะเชื่อว่าคุ้มกว่าการต้องมาเติมลมยางแบบธรรมดาบ่อยๆ ซึ่งลมยางแบบธรรมดาและไนโตรเจนก็มีข้อแตกกันคือ
ลมยางไนโตรเจนอยู่ได้นานกว่า เสถียรกว่า แต่ก็ราคาสูงกว่า และหาเติมได้ยากกว่า
ลมยางทั่วไปซึมเร็วกว่า แต่สามารถหาเติมได้ทั่วไป และเติมง่ายกว่า เจ้าของรถเติมเองได้
ส่วนใครจะเลือกแบบไหน ก็คงขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพอใจของแต่ละคน เพียงแค่ว่าหากเป็นการเดินทางต่างจังหวัด ต้องระมัดระวังเรื่องการเติมลมยางไนโตรเจนที่อาจจะหาร้านเติมได้ยากจนเป็นปัญหาได้

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าค่ายางที่เติมไปนั้นพอดีแล้ว

หลังจากเติมลมยางเรียบร้อยแล้ว สามารถเช็คได้ว่าลมยางนั้นเหมาะสมหรือไม่ด้วยการ
เมื่อออกตัวแล้วรถมีอาการส่ายหรือสั่นหรือไม่ หากออกตัวแล้วรถมีอาการส่ายหรือสั่น ต้องปรับเปลี่ยนลมยางให้เหมาะสม ล้อหลังมีอาการฟรีเมื่อออกตัวเต็มกำลังหรือไม่ หากมีอาการก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมเช่นเดียวกัน

ยางรถบิ๊กไบค์ และเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนยางคือ?

เมื่อถึงระยะที่กำหนด ตามปกติยางรถบิ๊กไบค์เองก็เหมือนกับยางรถจักรยานยนต์หรือยางรถยนต์ที่มีกำหนดระยะทางการใช้งาน เช่น 10,000 – 20,000 กิโลเมตร หากครบระยะทางดังกล่าวควรจะเปลี่ยนยางเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะกินเวลาราวไม่เกิน 2 ปี
และแม้ว่าหากระยะทางยังไม่ถึงที่กำหนด แต่ถึงระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ก็ควรจะเปลี่ยนยางเช่นเดียวกันหลายคนพยายามลดค่าใช้จ่ายด้วยการใช้งานยางรถบิ๊กไบค์เกินกว่าที่กำหนด ซึ่งเป็นการกระทำที่อันตรายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

เมื่อยางเกิดการสึกหรอ เสื่อมสภาพ หรือไม่อยู่ในสภาพปกติหลายคนชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถบิ๊กไบค์เป็นประจำแทบจะทุกสัปดาห์ ทั้งขึ้นเขาลงห้วย บุกป่าฝ่าดงย่อมจะทำให้ดอกยางและยางรถนั้นสึกก่อนเวลาอันควรได้หากผู้ขับขี่สังเกตดูแล้วว่ายางรถนั้นเริ่มเสื่อมสภาพและอยู่ในสภาพที่
ไม่ปลอดภัย และมีความลื่นที่เป็นอันตรายซึ่งสามารถดูได้จากการที่ยางนั้นสึกหรอจนถึงสะพานยาง (สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมที่ยาง) ก็หมายความว่าต้องเปลี่ยนยางได้แล้ว

เมื่อยางรถเกิดบาดแผล เช่นมีรอยบาด มีรอยตะปูตำ เกิดฉีกขาด ซึ่งหากใช้ต่อไปอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ก็ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนเช่นเดียวกัน เมื่อพิจารณาแล้วว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถบิ๊กไบค์ขั้นตอนการเลือกยางที่จะนำมาเปลี่ยนก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญเช่นกันเพราะการเลือกยางที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลกับการขับขี่ทั้งในแง่สมรรถนะและความปลอดภัย ของรถบิ๊กไบค์

ยางรถบิ๊กไบค์ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ค่ายางที่เติมไปนั้นพอดีแล้ว

หลังจากเติมลมยางเรียบร้อยแล้ว สามารถเช็คได้ว่าลมยางนั้นเหมาะสมหรือไม่ด้วยการ
เมื่อออกตัวแล้วรถมีอาการส่ายหรือสั่นหรือไม่ หากออกตัวแล้วรถมีอาการส่ายหรือสั่น ต้องปรับเปลี่ยนลมยางให้เหมาะสม ล้อหลังมีอาการฟรีเมื่อออกตัวเต็มกำลังหรือไม่ หากมีอาการก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมเช่นเดียวกัน

ค่าต่างๆที่ระบุไว้ ยางแต่ละชนิดแต่ละประเภทนั้นมีค่าที่ระบุไว้แตกต่างกัน ค่าต่างๆบนยางนั้นมีไว้เพื่อบอกรายละเอียดต่างๆของยางเส้นนั้น ซึ่งผู้ขับขี่สามารถใช้ค่าต่างๆเหล่านี้เพื่อพิจารณาว่ายางเส้นนี้เหมาะกับรถบิ๊กไบค์ของตนเองหรือไม่
เช่น 110/70 ZR17 M/C 54W ,110 หมายถึง ยางกว้าง 110 มม. 70 คือความสูงของแก้มยาง70% Z คือตัวอักษรที่บอกว่ายางชนิดนี้ใช้กับรถประเภทไหน R นั้นคือชนิดของยาง 17 หมายถึงขนาดขอบล้อ M/C หมายความว่านี่คือยางที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์ 54 คือดัชนีการรับน้ำหนักและ W หมายถึง เรทความเร็วสูงสุดที่ยางรับได้ ซึ่งหากเป็น W หมายความว่ายางรับความเร็วสูงสุดได้ที่ 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนตัวอักษรอื่นๆ จะมีเรทความเร็วที่รับได้แตกต่างกันออกไปเมื่อใส่ยางใหม่แล้ว

วิธีที่จะทำให้ยางรถนั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานตามอายุการใช้งานปกติที่กำหนดไว้คือ ผู้ขับขี่ต้องหมั่นตรวจเช็คและบำรุงรักษาซึ่งการดูแลยางนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่ ดูใส่ใจยางรถก็อยู่ด้วยกันไปอีกนานแล ดังนี้
หมั่นเช็คลมยางเป็นประจำ และเติมลมยางให้เหมาะสม หากฝืนขับรถที่ลมยางอ่อนจะทำให้ยางรถเกิดความเสียหายก่อนเวลาได้

ขับขี่รถด้วยความเร็วที่เหมาะสม และไม่ออกตัวด้วยความแรงที่มากจนเกินไปการขับขี่รถด้วยความเร็วการเบรกกะทันหันการไม่หยุดพักรถเมื่อขับขี่เป็นระยะเวลานานล้วนแต่เป็นสาเหตุให้ยางสึกหรอเร็วขึ้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ให้เหมาะสมจะช่วยยืดอายุยางให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นด้วยซึ่งก็ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่งด้วย

หลังจากได้ค่าลมยางที่เหมาะสมแล้ว การบำรุงรักษาก็สำคัญไม่แพ้กัน

เพราะแม้ว่าผู้ขับขี่จะได้ค่าลมยางที่เหมาะสมแล้ว แต่หากไม่ขับขี่ด้วยความระมัดระวังหรือใช้รถขับบนถนนที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง กรวดหินดินทรายเป็นประจำหรือใช้น้ำหนักเกินมาตรฐานเป็นประจำ  ก็อาจจะทำให้ลมยางซึมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น และที่สำคัญต้องหมั่นตรวจการรั่วซึมของลมยาง สังเกตว่าลมยางหมดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ หากหมดเร็วเกินไป ต้องหาสาเหตุเพื่อแก้ไขให้เหมาะสมด้วย
ความใส่ใจในการสังเกตความเสื่อมสภาพของยางการเลือกยางที่เหมาะสมกับการใช้งานและรถบิ๊กไบค์ของตนเองรวมไปถึงการดูรักษายางอย่างถูกวิธีล้วนแต่เป็นวิธีที่ดีที่ไม่แค่เพิ่มอายุการใช้งานเท่านั้น แต่สำคัญที่สุดคือยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทุกการขับขี่บิ๊กไบค์ด้วยเพื่อให้ทุกการขับขี่เป็นประสบการณ์ที่ดีได้อย่างยาวนาน

ขอบคุณข้อมูลและภาพ :/https://blogs.peeramotosports.co.th/
ขอบคุณข้อมูลและภาพ : https://www.carinner.com/
เรียบเรียงโดย : Tzarbikeshop.com
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบิ๊กไบค์ได้ที่ : Tzarbikeshop – อะไหล่บิ๊กไบค์

ใส่ความเห็น